Search

คอลัมน์การเมือง - นักเรียน นิสิต นักศึกษา ดูแลตัวเองให้ดีก่อน ก่อนเพ้อว่าจะดูแลบ้านเมือง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

nawasana.blogspot.com

วิญญูชนในประเทศไทยเคยนึกกระหยิ่มในใจว่า พลังบริสุทธิ์ของนักเรียน นิสิต นักศึกษายังไม่ล้มหายตายจากไปจนสูญสิ้นจากแผ่นดินไทยเพราะเห็นว่ามีการรวมตัวของคนกลุ่มนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนรุ่นใหม่ แล้วก็หวังว่าการรวมตัวกันนี้จะทำให้ความเลวร้ายในสังคมไทยถูกขจัดไปได้บ้าง  

แต่แล้ว ความกระหยิ่มในใจของวิญญูชนก็กลับถูกทำลายลงโดยพลัน เมื่อพบว่าการเคลื่อนไหวของคนที่วิญญูชนเชื่อว่าเป็นพลังบริสุทธิ์ กลับเต็มไปด้วยความบางเบาของสติปัญญา จนไม่น่าเชื่อว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นปัญญาชนจะมีสติปัญญาเพียงแค่เท่าที่เห็นนี้ 


ข้อเรียกร้องทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชื่อในการเคลื่อนไหวว่ากลุ่มปลดแอก มีความน่าสนใจมิใช่น้อย เพราะดูเสมือนว่าคนกลุ่มนี้ต้องการทำให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้ามากกว่าเดิม แต่ก็มีคำถามตามมาจากคนที่ร่วมเป็นสมาชิกสังคมว่า ปลดแอกจากอะไร อะไรคือแอกที่นักเรียน นิสิต นักศึกษากล่าวถึง แถมยิ่งเมื่อได้ติดตามฟังการปราศรัยของคนกลุ่มนี้ก็กลับพบว่ามีข้อน่าสงสัยมากมายหลายประการมากเสียจนทำให้วิญญูชนตีความไปว่า นักเรียน นิสิต นักศึกษาต้องการจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะเมื่อมีการนำข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ซึ่งเกี่ยวพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามากล่าวโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์

อันที่จริง หากนักเรียน นิสิต นักศึกษาปรารถนาจะเห็นสถาบันพระมหากษัตริย์มีการพัฒนา ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครหวงห้ามได้เพราะทุกคนก็ต้องการพัฒนาสถาบันหลักนี้ให้มั่นคงยิ่งๆ ขึ้นไป แต่ถ้าหากคนกลุ่มนี้ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ต้องยืนยัน ณ ที่นี้ว่า คนไทยอีกเป็นจำนวนมากไม่มีวันยินยอมให้ใครหน้าไหนล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยยังมั่นใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จำเป็นและสำคัญต่อสังคมไทย 

การแสดงออกด้วยการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษาด้วยการแสดงสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ชูสามนิ้วผูกริบบิ้นขาว ร้องเพลง (แฮมทาโร) และจัดการชุมนุมแบบสายฟ้าแลบ(flash mob) ตามสถานที่ต่างๆ และเรียกร้องให้รัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองใหม่ แต่เมื่อจะลงลึกในสารัตถะว่าอะไรคือการเมืองระบบใหม่ ก็ยังไม่เห็นว่ากลุ่มคนที่เรียกร้องจะสามารถระบุให้ชัดเจนได้ซึ่งก็เท่ากับว่าสักแต่ว่าเรียกร้องไปเรื่อยๆ เท่านั้น

ขอบอกตรงๆ ว่าเท่าที่พยายามติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มปลดแอก ก็ยังไม่เห็นความชัดเจนอะไรมากนัก ยกเว้นเพียงการพูดจา และแสดงข้อความบนป้ายโดยมีเจตนาถากถางสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นประจำ แต่เมื่อจะถูกนำตัวไปลงโทษตามกฎหมาย ก็กลับพูดปดว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งรังแก 

ขอยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาจะไม่พอใจกับการปกครองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่เมื่อไม่พอใจแล้ว ก็ต้องบอกให้ชัดว่าไม่พอใจเพราะอะไร ไม่พอใจในประเด็นใด แล้วต้องตอบให้ชัดด้วยว่า ความเลวร้ายที่พวกเขามองเห็นว่าเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดนี้ มันได้เคยเกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดที่ผ่านๆ มาหรือไม่ แล้วเขามั่นใจหรือว่าสิ่งที่เขารังเกียจจะไม่บังเกิดขึ้นอีกกับรัฐบาลชุดใหม่ในอนาคต

มีคำถามต่อไปอีกว่า นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางความคิดของนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จบนเวทีแห่งอำนาจในสนามการเมือง ใช่หรือไม่ เพราะเกือบทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วงของนักเรียน นิสิต นักศึกษานั้น สาธารณชนจับได้คาหนังคาเขาว่า มีนักการเมืองที่ไม่ประสบความสำเร็จทางการเมืองรายหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องอยู่เสมอๆ ซึ่งหากจะพูดให้ตรงประเด็นโดยไม่อ้อมค้อมคือ มีคำถามจากสาธารณชนว่า นักเรียน นิสิต นักศึกษาจำนวนหนึ่งตกอยู่ใต้อิทธิพลทางความคิดของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่า คำถามนี้น่าสนใจมาก เพราะคนที่ติดตามพฤติกรรมการเมืองของนายธนาธรมาอย่างใกล้ชิด ต่างรู้ดีว่านายธนาธรมีเป้าประสงค์ทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตนเองอย่างไร 

การที่นายธนาธรกล่าวเสมอๆ ว่า การลุกขึ้นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาคือเรื่องสำคัญ โดยกล่าวว่าอนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ ถ้าไม่ลุกขึ้นต่อสู้ ก็จะไม่มีเสรีภาพ คนรุ่นใหม่จะไม่มีเสรีภาพหากไม่ลุกขึ้นสู้ ต้องสู้เพื่อนำเสรีภาพและประชาธิปไตยกลับคืนมาธงนำของสังคมไทยอยู่ที่มือของคนรุ่นใหม่ เสียงของคนรุ่นใหม่ดังมากในสังคมไทย ขอฝากอนาคตของประเทศไทยไว้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา อนาคตของประเทศไม่ได้อยู่ในรัฐสภาอีกต่อไป แต่อยู่ที่พวกคุณ สู้เป็นไทยถอยเป็นทาส

น่าอัศจรรย์ใจที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างเชิดชูว่านายธนาธรคือต้นแบบของประชาธิปไตย แล้วคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยต่างเจ็บแค้นอาฆาตที่นายธนาธรไม่ประสบความสำเร็จทางการเมืองในสภา แต่คนรุ่นใหม่กลับไม่เคยพิจารณาว่าความเป็นมาของนายธนาธรคืออะไร ประกาศตัวเล่นการเมืองด้วยวัตถุประสงค์ใด หากไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภาแล้ว เหตุใดนายธนาธรจึงตั้งพรรคการเมือง แล้วสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่ง สส. ด้วยเหตุผลใด แล้วมีคนรุ่นใหม่สักกี่คนที่เคยตั้งคำถามถึงความร่ำรวยของนายธนาธร สิ่งเหล่านี้คือปมประเด็นที่สาธารณชนฝากตั้งคำถามไปยังคนรุ่นใหม่ที่อ้างตัวว่าลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพ 

นอกเหนือจากประเด็นการเมืองอันมีส่วนพัวพันกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แล้วยังรวมไปถึงคนอื่นๆ อย่างเช่น นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งต่างเชิดชูว่าเป็นคนสำคัญของพวกเขา จนถึงขนาดนำภาพของนายสมศักดิ์ และนายปวินเข้าไปชูแสดงในการชุมนุม แล้วเชิดชูยกย่องว่าเป็นคนพิเศษของพวกเขา ซึ่งการกระทำดังกล่าวของนักเรียน นิสิต นักศึกษาบางกลุ่มที่แสดงออกเช่นนั้นทำให้วิญญูชนตั้งคำถามว่า นี่หรือคือคนที่อ้างตัวเองว่าเป็นปัญญาชน เป็นคนที่เข้ามาเพื่อจะปลดแอกให้สังคม แล้วคนจำพวกนี้นี่หรือที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแก้ไขระบบการเมืองไทยให้ก้าวไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้นพัฒนามากขึ้น

หากคนรุ่นใหม่จะอ้างว่านี้คือการคิดนอกกรอบที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม ก็ต้องขอบอกว่า คนอื่นที่เขามองเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ แล้วอดสังเวชใจมิได้  แล้วยังมีคำถามอีกว่าเวลากระทำอาการดังกล่าวนั้นทำไปในขณะที่ยังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ 

แต่ที่น่าตกใจยิ่งคือ เมื่อได้เห็นข้อเรียกร้องของนักเรียนบางกลุ่ม(ตัวอย่าง เช่น นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากลุ่มหนึ่ง) ที่ออกมารวมตัวประท้วงแล้วเรียกร้องผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างชัดเจน แต่กลับอ้างว่าเป็นการแก้ปัญหาให้สังคม ซึ่งข้อเรียกร้องที่สังคมได้ยินได้ฟังคือ ไม่อยากเรียนหนังสือ เพราะทนรับปัญหาการจราจรติดขัดไม่ได้ รวมถึงยังมีข้อเรียกร้องจากนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆ ที่เรียกร้องว่าไม่ต้องการสวมเครื่องแบบนักเรียนอีกต่อไป โดยต้องการสวมเสื้อผ้าได้ตามความต้องการ และไม่ต้องการตัดผมสั้น แต่ต้องการไว้ผมตามที่ตนเองปรารถนา

เมื่อวิญญูชนได้ยินข้อเรียกร้องเหล่านี้จากปากของคนที่ยังป่าวประกาศว่าตนเองเป็นปัญญาชน ก็ทำให้เกิดอาการสังเวชเป็นที่สุด แล้วก็ตั้งคำถามตามมาว่า นี่หรือคือปัญญาชน ปัญญาชนคิดได้เพียงเท่านี้เองหรือ ปัญญาชนเคยคิดบ้างไหมว่า ทำไมนักเรียนต้องตัดผมสั้น หากปล่อยให้ไว้ผมยาวแล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมากับตัวของเขาเอง ส่วนเรื่องเครื่องแต่งกายของนักเรียนก็เช่นกัน คนที่อ้างว่าเป็นปัญญาชนเคยตั้งคำถามบ้างหรือไม่ว่า เหตุใดจึงต้องสวมเครื่องแบบนักเรียน หากไม่มีเครื่องแบบนักเรียนแล้วจะเกิดปัญหาใดๆตามมาบ้าง 

นักเรียน นิสิต นักศึกษาบางกลุ่มอ้างว่าประสิทธิภาพของการเรียนรู้ของแต่ละคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรงผมและเครื่องแต่งกาย ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่พอรับฟังได้ แต่ในมุมกลับกัน นักเรียน นิสิต นักศึกษาเคยสำเหนียกบ้างไหมว่า หากปล่อยให้นักเรียนไว้ทรงผมอะไรก็ได้ หรือให้แต่งกายอย่างไรก็ได้เวลาไปเรียนหนังสือ จะทำให้เกิดปัญหาอะไรกับตัวนักเรียน และผู้ปกครองตามมา

การเป็นปัญญาชนนั้น จำเป็นต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ตนเองมีสถานภาพเช่นไร มีบทบาท และมีความรับผิดชอบต่อบทบาทอย่างไร การที่คนลืมสถานภาพ ลืมบทบาท ลืมหน้าที่ของตนเอง ก็ถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของสังคม 

การที่นักเรียน นิสิต นักศึกษาจะออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้สังคม เป็นเรื่องที่ควรแก่การสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็นับเป็นเรื่องน่าอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน หากผู้เรียกร้องดีแต่ป่าวร้องตะโกนปาวๆ แต่ทว่ากลับไม่เคยดูบ้างว่าตนเองมีหน้าที่อะไร แล้วตนเองทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบหรือยัง การจะอวดอ้างว่าตนเองรักความถูกต้อง รักเสรีภาพ รักประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ หากการกระทำทั้งหมดเกิดมาจากวิจารณญาณของตนเองแต่หากการกระทำใดๆ ก็ตามเกิดขึ้นเนื่องจากความลุ่มหลง หลงผิดและถูกชักจูงให้ต้องกระทำ แถมยังกระทำลงไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องโก้เก๋ ทำไปเพราะความอยากดัง ก็ต้องบอกว่าปัญญาชนไม่พึงกระทำเช่นนั้น 

ขอฝากทิ้งท้ายว่า หากเด็ก เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษามุ่งมั่นปรารถนาจะพัฒนาบ้านเมืองให้ดีขึ้นโดยแท้จริงแล้ว ขอฝากให้ดูแลตัวเองให้ดีก่อน อย่าให้ตนเองต้องเป็นภาระของใครต่อใคร โดยเฉพาะพ่อแม่ แล้วก็ต้องไม่สร้างปัญหาใดๆ ให้กับพ่อแม่

ขอให้คนรุ่นใหม่ที่อ้างว่าจะออกมาช่วยบ้านช่วยเมืองกลับไปพิจารณาตัวเองให้ถี่ถ้วนว่า ทุกวันนี้ก่อนจะออกจากบ้าน ยังปล่อยให้พ่อแม่ล้างจานข้าวที่ตนเองกินไว้หรือเปล่า ยังปล่อยให้พ่อแม่ (หรือคนรับใช้) เก็บกางเกงในที่ตนโยนทิ้งกองไว้กับพื้นห้องหรือเปล่า แล้วเคยซักเสื้อซักผ้า ซักถุงเท้า ซักชุดชั้นในของตนเองบ้างหรือไม่ หากยังไม่สามารถทำในสิ่งดังกล่าวข้างต้นได้ด้วยตนเองได้อย่างดีและสมบูรณ์แล้ว ก็ขอร้องเถอะ ขอร้องว่าอย่า (สาระแน) ออกไปป่าวประกาศว่าจะเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ร้องหาประชาธิปไตย เรียกร้องให้แก้ไขระบบการเมืองการปกครองของประเทศ และเรียกร้องให้ยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์เลย เพราะในเมื่อยังไม่มีปัญญาดูแลตัวเอง แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนไปดูแลบ้านเมือง

Let's block ads! (Why?)



"ไปได้ด้วยดี" - Google News
September 06, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/335GGb4

คอลัมน์การเมือง - นักเรียน นิสิต นักศึกษา ดูแลตัวเองให้ดีก่อน ก่อนเพ้อว่าจะดูแลบ้านเมือง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
https://ift.tt/2U2qx2u


Bagikan Berita Ini

0 Response to "คอลัมน์การเมือง - นักเรียน นิสิต นักศึกษา ดูแลตัวเองให้ดีก่อน ก่อนเพ้อว่าจะดูแลบ้านเมือง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.