การชุมนุมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาจาก 50 โรงเรียนทั่วประเทศยุติลงเมื่อเวลา 19.00 น. หลังประกาศ 3 ข้อเรียกร้อง และ 1 เงื่อนไขหน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
การชุมนุมครั้งนี้ใช้ชื่อว่า "หนูรู้หนูมันเลว" โดยถือเป็นครั้งที่ 2 ที่บรรดาเยาวชนมาจัด "แฟลชม็อบ" หน้า ศธ.
ผู้ร่วมกิจกรรมเกือบทั้งหมดสวมใส่ชุดนักเรียนมา โดยบางคนมีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครอง ครู นักศึกษาซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่ม "ประชาชนปลดแอก" และอดีตนักการเมืองร่วมสังเกตการณ์และให้กำลังใจนักเรียกร้องประชาธิปไตยรุ่นเยาว์ด้วย
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นคือการประชันความเห็น (ดีเบต) ระหว่างนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. กับนักเรียนชายวัย 17 ปี โดยนำข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งปรากฏเสียงโห่ร้องและเสียงเป่านกหวีดดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ในระหว่างนายณัฏฐพลแสดงความคิดเห็น
สำหรับ "3 ข้อเรียกร้อง" ของผู้ชุมนุมคือ หยุดคุกคามนักเรียน, ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และปฏิรูปการศึกษา ส่วน "1 เงื่อนไข" คือ หากทำไม่ได้ให้ รมว.ศธ. ลาออกจากตำแหน่ง
การดีเบตเริ่มต้นด้วยคำถามจากพิธีกรที่ว่าการคุกคามคืออะไร นายณัฏฐพลชี้แจงว่า ศธ. ต้องการให้มีความปลอดภัยมากที่สุดในโรงเรียน ตามข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนเข้ามาพบการคุกคามใน 109 โรงเรียน ดังนั้นครู 100 คนอาจไม่เข้าใจ แต่ครู 5 แสนคนเข้าใจนักเรียน และขอให้นักเรียนช่วยส่งข้อมูลเข้ามาตามช่องทางที่ ศธ. เปิดให้ ซึ่งได้ทดสอบระบบแล้ว ขอให้มั่นใจในความปลอดภัย
"ต้องยอมรับว่าเรื่องที่เราคุยกันอยู่นี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่เราไม่คุ้นเคย เราต้องปรับตัว" นายณัฏฐพลกล่าว ท่ามกลางเสียงนกหวีดที่ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ขณะที่ตัวแทนนักเรียนให้ความเห็นว่า การคุกคามนักเรียนไม่ใช่แค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้น แต่หมายรวมถึงการตีและทำร้ายนักเรียนอย่างไม่สมเหตุสมผล นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะนักเรียนถูกตีมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนการคุกคามใน 109 โรงเรียน เป็นข้อมูลที่ถูกรวมโดยองค์กรเดียว เชื่อว่าจะมีมากกว่านั้น จึงอยากให้ ศธ. แสดงความใส่ใจด้วยการลงพื้นที่ไปตรวจสอบและประเมินทุกโรงเรียนที่มีปัญหา
คำถาม-คำตอบ ปมคุกคามนักเรียน
แต่ถึงกระนั้นได้มีคำถามต่อเนื่อง ซึ่งมีคำถาม-คำตอบ ดังนี้
ถาม : แทนที่ครูจะตามหาต้นตอเหตุการณ์การละเมิดนักเรียน กลับไปตามหาว่าใครเอาคลิปไปปล่อยในโซเชียลมีเดีย?
รมว.ศธ. : "แล้วไงต่อครับ (เสียงโห่) คุณครูไปหาตัวนักเรียนที่ถ่ายคลิป ถ้ามีช่องทางน้อง ๆ ก็บอกมา แปลว่าครูคนนั้นทำผิดจรรยาบรรณ เราก็ต้องลงโทษตามประกาศของกระทรวง
ถาม : ครูห้ามนักเรียนติดโบว์ขาวผิดไหม?
รมว.ศธ. : "ไม่ผิดครับ วันนี้ก็ติดกันเต็มเลยครับ ผมคิดว่าวันนี้ ผอ.สถานศึกษา ครูส่วนใหญ่เข้าใจการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตรงนี้แล้ว"
ถาม : แล้วโรงเรียนที่ปิดประตูรั้วไม่ให้ชุมนุมได้ล่ะ?
รมว.ศธ. : "การที่เขาห้ามบุคคลภายนอกเข้าไป ก็เพื่อความปลอดภัย ทำไมต้องให้เข้าไป"
ถาม : แล้วคนนอกอย่างตำรวจเข้าไปได้หรือ?
รมว.ศธ. : "ก็ขึ้นกับว่าเขาเข้าไปทำไร ถ้าเขาขึ้นไปตรวจยาเสพติด ตำรวจนอกเครื่องแบบ จะขึ้นไปไม่ได้หรือ"
ถาม : บางโรงเรียน ครูห้ามเอาเรื่องราวที่เกิดในโรงเรียนไปเผยแพร่ เหมือนซุกปัญหาไว้ใต้พรม
รมว.ศธ. : "ก็ไม่ต้องซุกครับ เอาข้อมูลตรงนั้นออกมาครับ เราซุกหลายอย่างมาเกินไปแล้วครับ ในระบบการศึกษาไทย ต้องยอมรับความจริงว่าวันนี้ถ้าหนู ๆ อยากจะบอกเรื่องอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับบุคลาการการศึกษา เราต้องแก้ปัญหา แต่ต้องยอมรับว่าครูดี ๆ มีมากมาย เราต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน คนไม่ดีก็ต้องขจัดไป"
"ชุดนักเรียนไม่ใช่เสื้อเกราะ"
นอกจากประเด็นการคุกคามนักเรียน ยังมีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลัง โดยตัวแทนนักเรียนสะท้อนว่าประกาศของ ศธ. "ไม่มีประสิทธิภาพ" เพราะโรงเรียนต่าง ๆ ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งในเรื่องทรงผมของนักเรียน ซึ่ง รมว.ศธ. ก็ยอมรับว่าเป็นเพราะ "เราไม่เข้มงวดเพียงพอ"
อีกข้อเสนอคือให้ยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน โดยตัวแทนนักเรียนชี้ว่าการสวมใส่ชุดนักเรียนอาจสร้างความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็พบว่านักเรียนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งหมดอยู่ในคราบนักเรียน ดังนั้น "ชุดนักเรียนไม่ใช่เสื้อเกราะ ไม่สามารถทำให้นักเรียนปลอดภัยได้" ทว่านายณัฏฐพลยืนกรานว่าการสวมชุดนักเรียนจะทำให้ปลอดภัย และสามารถแยกแยกนักเรียนออกจากคนกลุ่มอื่น ๆ ได้ "ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมเชื่อว่าคนไทยไปปกป้องนักเรียนก่อนจะปกป้องคนอื่น ๆ" อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ เพราะถ้าเปิดช่องให้แต่งตัวตามธรรมชาติ "เราก็ต้องมานั่งดูกับเพื่อน ก็ต้องแข่งขันกัน ความเหลื่อมล้ำก็จะมากขึ้น" อีก
รมว.ศธ. ระบุว่า ได้มอบหมายให้ทีมงานตรวจสอบกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ตราไว้ 2-5 ปีแล้วไม่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงให้ทันสมัย
ณัฏฐพลชี้เงื่อนไขทำไมได้ให้ลาออกคือ "การคุกคาม"
ในช่วงท้าย พิธีกรเปิดโอกาสให้นายณัฏฐพลร้องขออะไรก็ได้จากนักเรียน โดยเขาบอกว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งอยู่บนเวทีหรือสร้างความกดดันแบบนี้ เพราะบางอย่างที่ทำมีผลกระทบในภาพใหญ่ ตนผ่านกระบวนการนี้มาแล้ว และทราบดี ว่าประเทศไทยเปราะบางที่สุดในแง่การลงทุนจากต่างประเทศ พร้อมย้ำว่าหากอะไรมีเหตุผลก็พร้อมรับฟังและนำไปปฏิบัติ
"ท่านไม่ต้องกังวล วันที่ผมคิดว่าไม่สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศ ทำคุณประโยชน์ให้แก่การศึกษาได้ ผมพิจารณาตัวเอง... ผมยังเชื่อว่าการพูดคุยกันด้วยสันติวิธีสำหรับประเทศไทย น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด" เขากล่าวทิ้งท้ายท่ามกลางเสียงโห่ร้อง และตะโกน "ออกไป ๆๆๆ" ที่ดังระงม
การดีเบตจบลงในเวลาราว 1 ชั่วโมง จากนั้นตัวแทนกลุ่ม "นักเรียนเลว" ได้มอบหนังสือเรียน 8 สาระกลุ่มวิชา ไม้เรียว นกหวีด 44 ชิ้น พร้อมขนม "ปูไทย" ให้ รมว.ศธ. เป็นที่ระลึก แม้นายณัฏฐพลจะออกตัวว่า "นกหวีดที่บ้านมีเยอะแล้ว" แต่ก็รับของที่ระลึกจากเด็ก ๆ ไปด้วยดี
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเช้า นายณัฏฐพลให้ความเห็นกับสื่อมวลชนว่าการตั้งเงื่อนไขให้ รัฐมนตรีลาออก "เป็นการคุกคาม" ทั้งที่เขาและข้าราชการ ศธ. ได้พยายามแก้ปัญหาและมองความเหมาะสมในการปฏิรูปการศึกษา
"หากพวกเราทุกคนตั้งใจแบบนั้น แล้วยังคิดว่าต้องออกไปจากประเทศนี้ หรือออกไปจากตำแหน่งนี้ ก็ต้องให้ทุกคนในกระทรวงออกไป" นายณัฏฐพลกล่าว
"ผู้ใหญ่เอ๋ย ผู้ใหญ่ดี"
ตลอดเวลา 4 ชั่วโมงของการชุมนุม มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์หลายรูปแบบ
นักเรียนชายรายหนึ่งนอนนิ่งบนพื้นถนน มีป้ายข้อความสารพัดทับถมอยู่บนร่าง โดยหลายวลีเป็นคำที่ผู้ใหญ่ใช้พูดกับเด็ก ๆ อาทิ ไม่อยากเรียนก็ลาออกไป, โดนล่าสมอง, เด็กโง่, สิ้นคิด, กลับไปเรียนให้จบก่อน, เชื่อฟังคุณครู ฯลฯ
ขณะที่กิจกรรมบนเวที บางช่วงได้ให้ผู้ชุมนุมร่วมกันขับร้องเพลงย้อนศรความเป็น "เด็กดี" ในสายตาผู้ใหญ่และรัฐไทย ผ่านเพลงที่มีเนื้อร้อง ดังนี้
"ผู้ใหญ่เอ๋ย ผู้ใหญ่ดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน 1. เปิดกว้างศาสนา 2. รู้ค่าคนด้วยกัน 3. มีวิจารณญาณ 4. วาจานั้นไม่แดกดันเหยียดหยาม 5. คิดทำด้วยเหตุผล 6. ให้เคารพคนมองต่าง 7. วางใจไว้ให้เป็นกลาง ฟังผู้น้อยดูบ้าง อย่าเพิ่งรีบไปค้าน 8. มีอัตตาจงขจัด 9. อย่าจำกัดประสบการณ์ เรียนรู้โลกใหม่ไพศาลให้เท่ากันการณ์นานาชาติพัฒนา 10. ทำตนให้น่าเอาอย่าง รู้จักขอโทษบ้าง และไม่สร้างแต่ปัญหา ผู้ใหญ่สมัยชาติพัฒนาร่วมจับมือเด็กพาชาติไทยเจริญ"
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล้อเลียน รมว.ศธ. ทั้งการเปลี่ยนฉากหลังของเวทีให้คล้ายคลึงกับฉากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ในช่วงเปิดปฏิบัติการกรุงเทพฯ เมื่อ ม.ค. 2557 โดยเปลี่ยนข้อความจาก "ปิดกรุงเทพฯ (Shutdown Bangkok) เป็น "ปิดเผด็จการ (Shutdown Dictatorship)" รวมถึงการจำลองเหตุการณ์การประกวดประกวด "มิส เอดูเคชัน"
"ขอบคุณนกหวีดที่ทำให้เจสสิฟายได้เป็นรัฐมนตรีถึงทุกวันนี้" นักเรียนผู้สวมบทเป็น "มิส เอดูเคชัน" กล่าวภายหลังคว้าตำแหน่ง เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ร่วมชุมนุม
สำหรับนายณัฏฐพล เป็น 1 ใน 9 แกนนำ กปปส. ที่จัดชุมนุมกลางกรุงเทพฯ นาน 204 วัน เพื่อขับไล่รัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนที่การชุมนุมจะยุติลงด้วยรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
September 05, 2020 at 09:15PM
https://ift.tt/3h18WAN
นักเรียนเลว : ณัฏฐพลรับมอบ “นกหวีด” หลังจบดีเบตปมคุกคามนักเรียน - บีบีซีไทย
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
https://ift.tt/2U2qx2u
Bagikan Berita Ini
0 Response to "นักเรียนเลว : ณัฏฐพลรับมอบ “นกหวีด” หลังจบดีเบตปมคุกคามนักเรียน - บีบีซีไทย"
Post a Comment