ฉะชิงชามข้าวเขย่า รบ. แคร์ชูคิดเคลื่อนไทย
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พบนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า การพบปะดังกล่าวไม่มีนัยทางการเมืองใดๆ ไม่เกี่ยวกับการย้ายพรรคหรือการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคตามที่มีรายงานข่าวในสื่อมวลชน เป็นการพบระหว่างเพื่อนเก่า คนของพรรคที่ออกไปยังเป็นมิตรที่ดีต่อกันเสมอ
ฟุ้ง 6 โครงการปฏิรูปพรรคสู่ดิจิทัล
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่าส่วนประเด็นการปรับปรุงพัฒนาพรรคก็กำลังขับเคลื่อนการปฏิรูปพรรคต่อเนื่อง โดยเฉพาะการอัปเกรดพรรคสู่องค์กรดิจิทัลซึ่งเริ่มทำใน 6 โครงการ คือ 1.จัดตั้งบิ๊กดาต้า (Big Data) 2.วางระบบบริหารจัดการพรรคด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล 3.วางระบบสื่อสารการประชุมทางไกลด้วยระบบ Zoom Cloud Meeting 4.พัฒนาระบบสื่อสารสาธารณะทุกแพลตฟอร์ม 5.จัดตั้งศูนย์สื่อสารดิจิทัล 6.จัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีไอที จะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลบิ๊กดาต้าและระบบการบริหารจัดการพรรคด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล มีระบบซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน ระบบเอไอ (AI) บล็อกเชน (Blockchain) และคลาวด์คอมมิวติ้ง (Cloud Commuting) เริ่มวางระบบจะเชื่อมโยงไปยังสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด สำนักงาน ส.ส.และศูนย์บลูเฮาส์ทุกเขตเลือกตั้ง เป้าหมายแล้วเสร็จในเดือน ก.ค.ส่วนการจัดตั้งศูนย์สื่อสารดิจิทัลและศูนย์เทคโนโลยีไอที เตรียมพร้อมไประดับหนึ่งแล้ว พรรคไม่เคยหยุดนิ่งพัฒนาปฏิรูปพรรคภายใต้แนวทาง “อุดมการณ์-ทันสมัย” ของหัวหน้าและเลขาธิการพรรค เพื่อสร้างเป็นสถาบันทางการเมือง หลังคลายล็อกโควิดจะมีกิจกรรมใหม่เพื่อประชาชน ที่คณะกรรมการภารกิจ 15 ด้านและคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคทั้ง 5 ภาคออกมาทุกสัปดาห์
“ดรุณวรรณ” อวย หน.ให้โอกาสทุกคน
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยว่า พรรคจัดกิจกรรมการอบรมยุวประชาธิปัตย์โดยทีมผู้บริหารพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอลงกรณ์ พลบุตร นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ แลกเปลี่ยนถ่ายทอดประสบการณ์งานพรรคและกระทรวงที่พรรครับผิดชอบ สะท้อนให้เห็นว่าพรรคภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์และผู้บริหารพรรคปัจจุบัน เปิดกว้างให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่อย่างดี ตนเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยืนยันได้ว่านายจุรินทร์มีวิสัยทัศน์ เปิดกว้างให้โอกาสคนทุกกลุ่ม ขับเคลื่อนพรรคไปข้างหน้า ตนได้เป็นรองโฆษกพรรคและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคอีกหลายชุด การเลือกหัวหน้าพรรคเป็นฉันทามติจากเสียงส่วนใหญ่ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ และสนับสนุนนายจุรินทร์ทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายต่างๆต่อไป
“สมบูรณ์” โต้ข่าวมั่วโยงล้ม “จุรินทร์”
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสื่อมวลชนบางแห่งวิเคราะห์พาดพิงตน จัดให้อยู่ในกลุ่ม กก.บห.พรรคที่อยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนมีสติสัมปชัญญะ รู้ผิดชอบชั่วดี และมีหลักการของความเป็นประชาธิปไตย เพราะเป็นคนกีฬาที่รู้แพ้ รู้ชนะ ทั้งนี้ตนเป็น กก.บห.พรรคจากการเลือกตั้ง เพราะสมัครแข่งขันเป็น กก.บห.ในชุดสุดท้าย 8 คน ที่เรียกว่า ฟอร์ตะลุมบอน ไม่ได้มาจากการแต่งตั้งของผู้บริหาร ที่ประชุมใหญ่พรรคเลือกตนเข้ามาเป็น 1 ใน 39 คน เพื่อร่วมขับเคลื่อนนโยบายไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุด เพื่อประชาชน ขอปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่ม กก.บห.ที่ต้องการเปลี่ยนตัวหัวหน้าหรือคณะ กก.บห.พรรคตามที่สื่อวิเคราะห์ เมื่อพรรคเลือก กก.บห.มาแล้วมาปรึกษาหารือในคณะกรรมการบริหารว่าเห็นด้วยหรือไม่ ทุกเรื่องต้องพูดคุยกันได้ เชื่อว่าหัวหน้าพรรคมีความเป็นประชาธิปไตยสูง คงรับฟังทั้งสิ่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย พรรคเรายึดหลักประชา-ธิปไตยในระบบเสียงข้างมาก คงไม่ใช่ระบบผิดหวังแล้วล้มกระดานเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ พรรคกำลังเดินไปได้ด้วยดี อย่าให้สะดุดเพราะกิเลสของบุคคลเลย
ทีม “มาดามเดียร์” ลงพื้นที่เขตพญาไท
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้ากระทรวงการคลัง เขตพญาไท กทม. ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นำโดย น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อม 5 ส.ส.กทม. น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขตดุสิต-บางซื่อ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี พญาไท จตุจักร น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลางและนายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก ลงพื้นที่รับเรื่องร้องเรียนการก่อสร้างตึกกระทรวงการคลัง และตึกสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเสียงรบกวน และสิ่งของก่อสร้างตกลงมาด้านล่าง โดย น.ส.ภาดาท์ระบุจะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา
ปัดขบเหลี่ยม“พุทธิพงษ์”แยกวงต่อรอง
จากนั้น น.ส.วทันยาให้สัมภาษณ์ว่าการประชุมพรรควันที่ 19 มิ.ย. กรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการจะหารือก่อนถึงวันประชุมใหญ่สามัญตามข้อบังคับพรรค เพื่อเตรียมการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันที่ 3 ก.ค.ประชุมใหญ่สามัญ ถือเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณา กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ขึ้นอยู่กับ ส.ส.ในพรรคพิจารณาเลือก เมื่อถามถึงความขัดแย้งกับนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.วทันยากล่าวว่า เวลาเจอกับนายพุทธิพงษ์ในสภาฯ เราพูดคุยกันตามปกติ ไม่ได้รู้สึกว่ามิตรภาพเปลี่ยนแปลงไป
เพื่อน ส.ส.จับมือลุยงานยังเคารพ “พี่บี”
“กลุ่ม 6 ส.ส.เป็นเพียงกลุ่มก้อนที่เริ่มต้นมาจากความเป็นเพื่อน ที่คาดหวังจะเป็น ส.ส.ที่ดี ทำเพื่อประชาชน ไม่ได้คาดหวังที่จะต่อรองตำแหน่ง เราเป็นเพียง ส.ส.สมัยแรก ที่ตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อประชาชน เพราะช่วงที่ผ่านมาเกิดวิกฤติโควิด-19 ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เราก็เล็งเห็นปัญหานี้ ไม่ได้เพิ่งจะมาตั้งกลุ่มในตอนนี้ แต่เราทำงานร่วมกันแก้ปัญหาให้ประชาชนมาสักระยะใหญ่แล้ว และเชื่อว่าพรรคไม่ได้ว่าอะไรการรวมกลุ่มครั้งนี้ ขอให้ดูในอนาคตว่าเราตั้งใจทำงานมากแค่ไหน” น.ส.วทันยากล่าว
น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี พญาไท จตุจักร กล่าวว่า ไม่อยากให้คิดว่าเรามาตั้งกลุ่ม เพราะกลุ่มเราคือเพื่อนมาทำกิจกรรมเพื่อประชาชนในพื้นที่ นายพุทธิพงษ์ยังเป็นพี่ที่น้องๆ เคารพรัก ขอยืนยันพวกเราไม่ต้องการต่อรองตำแหน่ง แต่อยากขับเคลื่อนการทำงานในพื้นที่อย่างจริงจัง
“หัวเขียง” ปัดช่วย “ตู่” ตั้ง รบ.สมานฉันท์
วันเดียวกัน นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แกนนำอีสานพรรคเพื่อไทย เจ้าของฉายา “หัวเขียง” ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะนำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม สร้างรัฐบาลสมานฉันท์ว่า ขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ไม่เคยคุยกับใครในเรื่องดังกล่าวเลย พักหลังมานี้ตนยุ่งแต่เรื่องคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และกลับบ้านเท่านั้น ทางการเมืองไม่เคยสุงสิงกับใคร จากการพูดจากับพรรคพวก ไม่ได้คุยในเรื่องเหล่านี้ ทั้งในพรรคและต่างพรรค ไม่เข้าใจคนที่ตั้งประเด็นข่าวนี้ขึ้นมา อาจเป็นเรื่องการเมืองทั้งภายในและภายนอกพรรคซึ่งตนไม่เกี่ยวข้อง และไม่กังวลจะทำให้คนสงสัยเพราะไม่มีมูลความจริง เมื่อข้อเท็จจริงไม่มีมูลก็ไม่เหตุผลต้องกังวล
แค่ทักไลน์ “เสี่ยลาว” ย้ายขั้วไม่มีมูล
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องชี้แจงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายประยุทธ์ ตอบว่า คงไม่จำเป็นเพราะไม่มีข้อเท็จจริงที่ต้องพูดคุยกัน เมื่อถามว่านายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ประสานเรื่องนี้ นายประยุทธ์ ตอบว่า นายพรศักดิ์เป็นคนรักใคร่นับถือกันธรรมดา ทักทายกันด้วยสติกเกอร์ไลน์ ไม่มีข้อความใดๆเลย
“พรศักดิ์”ปัดไม่เคยจีบพวกแหกคอก
ด้านนายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ กรรมการผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แกนนำอีสานพรรคเพื่อไทยจะนำ ส.ส.ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม สร้างรัฐบาลสมานฉันท์ว่า ตนไม่ได้คุยกับนายประยุทธ์ถึงเรื่องดังกล่าว และเป็นไปได้ยาก นายประยุทธ์อยู่พรรคเพื่อไทย เป็นที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านทำงานด้านกฎหมายอยู่คงไม่ออกมาและแม้จะคุยโทรศัพท์กับนายประยุทธ์บ้างแต่ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ มองว่าการมีข่าวเช่นนี้ออกมา เพราะต้องการทำให้นายประยุทธ์เสียหาย
“แคร์” ตั้งเพจชูไอเดีย คิด เคลื่อน ไทย
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มแคร์ จากการรวมตัวของกลุ่มคนที่มองเห็นปัญหาและต้องการหาโอกาสที่ดีให้กับประเทศนำโดยอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย คือ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 มิ.ย.ว่าช่วงค่ำวันที่ 12 มิ.ย.ได้เปิดเพจเฟซบุ๊ก “CARE คิด เคลื่อน ไทย” โดยอธิบายความหมายของกลุ่มว่า “CARE คือใคร? CARE (แคร์) ย่อมาจาก-C คือ Creative (ความคิดสร้างสรรค์)-A คือ Action for (การดำเนินการ) - R คือ Revival (การฟื้นฟู) -E คือ & People Empowerment (การเพิ่มขีดความสามารถของประชาชน)
พร้อมแชร์แนวคิดใหม่เพื่อลูกหลาน
เพจเฟซบุ๊ก “CARE ยังอธิบายด้วยว่า CARE คือ กลุ่มบุคคลจากหลากหลายอาชีพที่มองเห็นปัญหา และต้องการหาโอกาสที่ดีให้กับประเทศไทย ด้วยการแลกเปลี่ยน และนำเสนอความคิดเห็น จากทั้งคนรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ เพื่อนำเสนอสู่ประชาชน ด้วยความเชื่อของเราที่ว่า “เราจะแสวงหาโอกาสที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อคนรุ่นใหม่ และลูกหลานของเราในอนาคต ให้มีโอกาสที่ดีกว่าในปัจจุบัน” ภายใต้หัวใจหลัก 3 คำ คือ #คิดเคลื่อนไทย สัญลักษณ์ด้านบนตัวอักษรคือ “อักษรเบรลล์” ของ C A R E กลุ่ม CARE ยินดีต้อนรับทุกท่าน เราพร้อมจะแชร์และแคร์ทุกแนวคิดและความคิดเห็นในทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน” โดยมีผู้สนใจกดไลค์เพจแล้วจำนวนหนึ่ง
“ภูมิธรรม” จ่อเปิดเว็บไซต์เวที ปชช.
นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดแฟนเพจของกลุ่มแคร์ว่า เป็นการเปิดพื้นที่สื่อสารของกลุ่มกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจการดำเนินกิจกรรมของกลุ่ม และประชาสัมพันธ์กิจกรรมของกลุ่ม อีกทั้งจะใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันของประชาชนจากนี้กับกลุ่มแคร์ นอกจากนี้พวกตนเตรียมเปิดเว็บไซต์ เพื่อเป็นพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นด้วย
บ่ายวันเดียวกัน ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของสมาชิกเริ่มต้นของกลุ่ม เน้นย้ำเชิญชวนทุกภาคส่วนมาระดมความคิดเห็น โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นสำคัญ
โพลชี้ศึกชิง รมต.ป่วน รบ.สั่นคลอน
นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “คนดีการเมือง” สำรวจจาก 1,790 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 9-12 มิ.ย. เมื่อถามถึงลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีไว้ใกล้ตัว พบว่าร้อยละ 75.5 ระบุซื่อสัตย์สุจริตตามศาสตร์พระราชา ไม่ถอนทุนคืน ไม่มีประวัติด่างพร้อย ร้อยละ 10.9 ระบุทำเพื่อประชาชนในเฉพาะฐานเสียงของตนเอง ร้อยละ 10.4 ระบุคนเก่ง การศึกษาดี มีผลงานสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ และร้อยละ 3.2 อื่นๆ เช่น ร่ำรวย มีบารมี เมื่อถามถึงกลุ่มคนที่จะกระโดดหนีห่างจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นกลุ่มแรกถ้าเกิดปัญหาวิกฤติขึ้นในบ้านเมือง ร้อยละ 61.0 ระบุกลุ่ม ส.ส.ที่ปากบอกว่า รักบิ๊กตู่ หนุนบิ๊กตู่ ร้อยละ 21.6 กลุ่ม ส.ส.ที่กำลังแย่งชามข้าว แย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันตอนนี้ ร้อยละ 17.4 กลุ่มข้าราชการและประชาชนทั่วไป ที่น่าเป็นห่วงเสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 78.7 ระบุการแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำรัฐบาลแตกแยก บ้านเมืองวุ่นวาย บนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 21.3 ระบุไม่เป็น
เมินคนมากบารมี หนุน “ลุงตู่” ยุบสภา
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.5 ระบุการยุบสภาฯ คืนอำนาจประชาชน เลือกตั้งใหม่คือคำตอบ ในขณะที่ร้อยละ 17.8 ระบุปรับคณะรัฐมนตรีคือคำตอบ และร้อยละ 11.7 ระบุอื่นๆ เช่น ทำงานต่อไปคือคำตอบ ผลโพลชี้ชัดว่าลักษณะคนดีของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการที่มากที่สุดคือ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย แต่ลักษณะรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการน้อยที่สุดคือรัฐมนตรีที่มีบารมี จึงชัดเจนแล้วว่าใน ครม.ไม่ควรมีคนมากบารมีมากกว่านายกฯ ตามคำโบราณที่ว่าเสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่ที่น่าพิจารณาอย่างยิ่ง คือ การแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีของ ส.ส.ในพรรคการเมืองตอนนี้ กำลังกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว ที่ทำให้รัฐบาลแกว่งตัวสั่นคลอนบ้านเมืองวุ่นวายบนความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน ผลจากการประเมินขั้นสุทธิพบว่าการยุบสภาช่วงนี้จะเหมาะมากต่อจังหวะลงจากหลังเสือของ พล.อ.ประยุทธ์
ญาติวีรชน 35 ไล่ “ประยุทธ์” ลาออก
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา'35 เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ออกแถลงการณ์คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 มีเนื้อสรุปว่า ตามที่คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้ออกแถลงการณ์ ในโอกาสครบรอบ 28 ปีของเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2563 เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แสดงเจตจำนงเสียสละลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ ไม่ได้ปฏิรูปประเทศและสร้างความปรองดอง โดยก่อนจะลาออก 3-4 เดือนให้แก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงนิ่งเฉยไม่สนใจ คณะกรรมการญาติวีรชนฯ จึงขอตอกย้ำสถานการณ์ อาทิ ขณะนี้มีการแย่งชิงตำแหน่งกันในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกันท่ามกลางปัญหาโควิด-19 พอกันทีกับการเมืองน้ำเน่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปฏิรูปประเทศและไม่สร้างความปรองดองสมานฉันท์หลังยึดอำนาจ 22 พ.ค.2557 การตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วยุบทิ้ง ตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต่างๆ คือการซื้อเวลาเพื่อสืบทอดอำนาจเท่านั้น
บี้รื้อ รธน.–แก้ทุนผูกขาดก่อนลงหลังเสือ
นายอดุลย์กล่าวต่อว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีเวลาอีกไม่นานแล้วก่อนจะสายเกินไป ขอให้รีบเร่งแก้ปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง เป็นเกียรติประวัติก่อนลงจากหลังเสือ โดยเฉพาะปัญหาทุนผูกขาดประเทศ ปัญหากับดักรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐานไร้ความน่าเชื่อถือ ถ้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้คัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาบริหารประเทศไม่ใช่แต่งตั้งเพราะมีการต่อรองกัน และรัฐบาลต้องรีบแก้ไขปัญหารัฐธรรมนูญ เนื่องจากการทำหน้าที่ของวุฒิสภามาถึงทางตันแล้ว และต้องร่วมกับผู้แทนปวงชนจากทุกพรรคการเมืองเพื่อเดินหน้าบ้านเมืองสู่การปรองดองสมานฉันท์โดยเร็ว
“ปารีณา” แขวะของปลอมไม่ระคายผิว
ขณะที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวมีใจความตอนหนึ่งว่า “ตามที่กลุ่มญาติวีรชน 35 เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก โดยปี 35 มีการเคลื่อนไหวกดดันให้ พล.อ.สุจินดา ลาออก พล.อ.เปรม ประธานองคมนตรี ได้เรียกคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย ไม่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวตาย และไม่มีทหารตาย ตอนนี้กลับมีกลุ่มญาติวีรชน 35 #ปลอมมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ ลาออก พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯด้วยการโหวตจากผู้แทนฯในสภาตามระบบ ดังนั้นแรงกดดันดังกล่าว #ไม่ระคายสิวของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียงญาติวีรชน #ปลอม เพราะไม่มีใครตาย พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่สนใจเดินหน้าประเทศไทยค่ะ”
“เสรีพิศุทธ์” ปักหลักหาเสียง ลต.ซ่อมลำปาง
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บริเวณตลาดสดล้อมแรด ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง ย่านร้านค้าขายที่สำคัญของ อ.เถิน ช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 ก่อนที่จะมีถึงวันหย่อนบัตรวันที่ 20 มิ.ย. นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ และรักษาการหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ พร้อมนายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจใหม่ เดินทางมาช่วยนางสาวปทิตตา ชัยมูลชื่น ผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง เขต 4 เบอร์ 5 พรรคเศรษฐกิจใหม่ โดยพากันเดินเคาะประตูหน้าบ้านขอคะแนนเสียงประชาชน ชูนโยบายเป็นคนรุ่นใหม่
อาสาเข้ามาแก้ปัญหาให้ชาวลำปาง
ขณะเดียวกัน ที่บริเวณร้านค้าลานจอดรถวัดพระธาตุลำปางหลวง ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรค พร้อมคณะลงพื้นที่ช่วย ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เดินพบปะชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง พร้อมแจกแผ่นพับ แนะนำตัวผู้สมัคร มีพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนที่ชื่นชอบ เข้ามาให้กำลังใจและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เพราะถือเป็นหัวหน้าพรรคเพียงพรรคเดียว ที่ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านอย่างต่อเนื่องมาหลายวัน
กัมพูชาไม่มีเบาะแสอุ้มหาย “วันเฉลิม”
นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่มีรายงานข่าวการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า ภายหลังจากที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ขอให้ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งขอรับข้อมูลที่จะช่วยหาตัวนายวันเฉลิมต่อไป เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่า นายวันเฉลิม ได้เดินทางเข้าออกกัมพูชาหลายครั้ง ช่วงปี 2557-2558 และได้ขอรับการตรวจลงตรา หรือวีซ่า มีระยะ เวลาพำนักชั่วคราวในกัมพูชาได้ถึง 31 ธ.ค. 2560 หลังจากนั้นนายวันเฉลิมไม่ได้ขอต่ออายุวีซ่าอีก นอกจากนั้นทางการกัมพูชาไม่มีข้อมูลและเบาะแสการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชากำลังอยู่ระหว่างสืบหาข้อเท็จจริง สถานเอกอัครราชทูตจะติดตามความคืบหน้าและ ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับทางการกัมพูชาต่อไป
นศ.โวยถูกข่มขู่–รัฐบาลไม่คิดช่วย
ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดเวทีเสวนา “อุ้มหาย..แล้วไง?” โดย น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ นักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวว่านายเตียง ศิริขันธ์ ปู่ทวดของตนก็ถูกอุ้มฆ่า สนท.เริ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้นายวันเฉลิม ทุกครั้งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขู่คุกคาม การอุ้มนายวันเฉลิมไม่ใช่การเลือกฝั่ง แต่เป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน รัฐบาลมีพื้นฐานมาจากรัฐประหารจึงไม่เห็นประชาชน ยิ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามจึงไม่คิดช่วยเหลือ
ด้านนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้จัดงาน เผยว่าหลังจากประชาชนและนักศึกษาจำนวนหนึ่งไปเรียกร้องหน้าสถานทูตกัมพูชาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ขอให้รัฐบาล กัมพูชาติดตามคดีอุ้มนายวันเฉลิม ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ออกหมายเรียก 6 คน รวมถึงตนและนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน วันที่ 15 มิ.ย. นายสมยศยืนยันจะไปหน้าสถานทูตกัมพูชาอีกครั้ง เพื่อติดตามถามความคืบหน้าเรื่องนี้
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
June 14, 2020 at 05:25AM
https://ift.tt/2MXzPJo
โพลเชียร์ “ตู่” ยุบสภาฯ คืนอำนาจประชาชน - ไทยรัฐ
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
https://ift.tt/2U2qx2u
Bagikan Berita Ini
0 Response to "โพลเชียร์ “ตู่” ยุบสภาฯ คืนอำนาจประชาชน - ไทยรัฐ"
Post a Comment