Search

SPRC พุ่งแรงกว่ากลุ่ม..แต่ระยะสั้นยังไม่มีอะไรให้ลุ้น! - efinanceThai

nawasana.blogspot.com
SPRC พุ่งแรงกว่ากลุ่ม..แต่ระยะสั้นยังไม่มีอะไรให้ลุ้น!

หุ้นเด่นวันนี้

SPRC พุ่งแรงกว่ากลุ่ม..แต่ระยะสั้นยังไม่มีอะไรให้ลุ้น!

SPRC พลิกกลับมารายงานกำไรสุทธิ 1.1 พันลบ. ในช่วง Q2/63 หลังขาดทุนหนัก 8.3 พันลบ. เมื่อ Q1/63 จนนักวิเคราะห์หลายสำนักยังออกปากชมว่าทำผลงานได้ดีที่สุดในกลุ่ม แต่ในช่วงครึ่งปีหลัง สถานการณ์อาจไม่ดีอย่างที่คิดไว้ และผลงานน่าจะผ่านจุดที่ดีที่สุดของปีไปแล้ว เช่นนี้แล้ว SPRC ยังเป็นหุ้นน่าสนใจอยู่หรือไม่?...ต้องติดตาม!

*** ราคาหุ้นปิดบวกมากกว่ากลุ่ม 

ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC วานนี้ (26 ส.ค.63) กระโดดขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ราคา 6.95 บาท ก่อนปิดซื้อขายด้วยราคา 6.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ 2.22% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 346.49% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า 

นอกจากนี้ SPRC ยังปิดซื้อขายราคาบวกแรงกว่าหุ้นในกลุ่มเดียวกันอย่าง บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่ปิดซื้อขายด้วยราคา 43 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.58% และ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ที่ปิดซื้อขายด้วยราคา 2.44 บาท เท่ากับราคาเปิดช่วงเช้าวานนี้ 

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง ระบุถึงสาเหตุที่ราคาหุ้น SPRC วานนี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่ากลุ่ม เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ หันมาเล่นหุ้นที่ราคายังอยู่ในระดับต่ำ ที่สามารถแรลลี่ราคาขึ้นไปได้ ซึ่ง SPRC คือหนึ่งในนั้น โดยปัจจัยดังกล่าว เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นเท่านั้น

*** โค้งสองผลงานเด่นกว่าคู่แข่ง

บล.ทิสโก้ ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 2/63 SPRC รายงานกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาท พลิกจากขาดทุน 8.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 1/63 สาเหตุหลัก เป็นเพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันเป็นสำคัญ และ SPRC ยังมีผลขาดทุนจากรายการพิเศษเพียง 41 ล้านบาท จากการ SWAP ค่าเงิน แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ ผลประกอบการจะอยู่ที่ 255 ล้านบาท

ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ของ SPRC โดดเด่นกว่าคู่แข่ง เนื่องจากมีน้ำมันดิบจำนวนมากทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าจากการแปรรูปน้ำมันดิบ light crude มากขึ้น และยังเพิ่มสัดส่วนน้ำมันดิบ ME ขึ้นเป็น 82% (เดิม 14%) ขณะที่ ส่วนผสมน้ำมันดิบ ME ของ TOP และ IRPC อยู่ที่ 56% และ 72% ตามลำดับ ซึ่งทำให้ค่าการกลั่นของ SPRC อยู่ที่ 4.65 เหรียญ/บาร์เรล สูงสุดในบรรดาคู่แข่ง 

นอกจากนี้ SPRC ยังรักษายอดขายในประเทศไว้ที่ 81% เทียบกับคู่แข่งในกลุ่มที่อยู่ในระดับ 75% เนื่องจากผลตอบแทนจากน้ำมันเครื่องบินที่ลดลง ในทางตรงกันข้าม TOP ส่งออกน้ำมันเครื่องบินไปยังประเทศสิงคโปร์เพิ่มขึ้น (กำไรต่ำกว่า) โดย SPRC ยังสามารถลดอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ลงเหลือ 0.3 เท่า (เดิม 0.5 เท่า) ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในกลุ่มอีกด้วย


*** แต่ครึ่งปีหลังอาจไม่ง่ายอย่างที่คิด

แม้ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 จะโดดเด่นสุดในกลุ่ม และมีพัฒนาการจากไตรมาส 1/63 เป็นอย่างมาก แต่ บล.ทิสโก้ ประเมินว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/63 ของ SPRC จะอ่อนแอลงจากช่วงไตรมาส 2/63 เนื่องจากส่วนลดของราคาน้ำมันดิบที่ลดลง และกลับมาเป็นราคาพรีเมี่ยมเฉลี่ย 6.4 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเที่ยบตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/63 ถึงปัจจุบัน ขณะที่อัตรากำไรยังอ่อนแอจากค่าการกลั่นที่ประเทศสิงคโปร์ยังเป็นลบ

สอดคล้องกับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลัง กำไรจากการดำเนินงานของ SPRC ยังมีแนวโน้มอ่อนแอลงจากไตรมาส 2/63 เนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบที่สูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางซึ่งมีสัดส่วน 70 - 75% ของกระบวนการผลิตทั้งหมด

โดยอ้างอิงน้ำมันดิบ Arab light ของประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่มีส่วนลด 5.4 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงไตรมาส 2/63 แต่ในช่วงไตรมาส 3/63 ส่วนลดดังกล่าวจะเหลือเพียง 0.8 เหรียญ/บาร์เรล นอกจากนี้ Upside ของ Crack spread จากการฟื้นตัวจากอุปสงค์หลังการเปิดเมือง จะถูกจำกัดจากปริมาณสต็อกน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง และจะไม่มีการกลับรายการปรับมูลค่าสินค้าคงคลัง (NRV) เหมือนในช่วงไตรมาส 2/63

เช่นเดียวกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง SPRC ไม่น่าจะเพิ่มอัตรากำลังการผลิตขึ้นได้แล้ว เว้นแต่จะมีการฟื้นตัวของน้ำมันเครื่องบินมาช่วยหนุน ซึ่งตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา SPRC ได้ลดการผลิตน้ำมันเครื่องบินเป็น 0% แต่หันมาเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดีเซล และเบนซิน เป็น 50% และ 32% ตามลำดับ เนื่องจากความต้องการน้ำมันเบนซิน และดีเซลกลับสู่ภาวะปกติก่อนการแพ่ระบาดโควิด-19 แล้ว

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของราคาน้ำมันเบนซินยังคงมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบสอง (การฟื้นตัวสะดุดในช่วงกลางเดือน มิ.ย. จาก 6 เหรียญ/บาร์เรล เป็น 3 เหรียญ/บาร์เรล) ขณะที่สเปรดน้ำมันดีเซล ยังคงแผ่วลงตามความต้องการน้ำมันเครื่องบินที่อยู่ในระดับต่ำ 

*** โบรกฯ มองทั้งปีเสี่ยงขาดทุนสูง

บล.บัวหลวง ระบุว่า จากผลประกอบการครึ่งปีแรกของ SPRC ที่ขาดทุนหนักราว 7.1 พันล้านบาท ส่งผลให้ SPRC จะเร่งดำเนินโครงการลดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 

นอกจากนี้ SPRC ยังได้ติดตามเงินที่ถูกโอนไปยังบัญชีที่ไม่ถูกต้องประมาณ 2.8 พันล้านบาท เมื่อปลายปี 62 เนื่องจากถูกแฮ็กข้อมูลธุรกรรมทางอีเมล์ ซึ่งคาดว่าจะได้เงินคืนประมาณ 188 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้

ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า แม้ SPRC จะสามารถติดตามเงินที่ถูกแฮ็กคืนมาได้ในบางส่วน แต่จากผลขาดทุนครึ่งปีแรกกว่า 7.1 พันล้านบาท ประกอบกับผลการดำเนินครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะอ่อนแอลง ทำให้ประเมินว่าผลประกอบการปี 63 ของ SPRC จะรายงานขาดทุนสุทธิ 4.9 พันล้านบาท ลดลง 76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 


*** โบรกฯ ส่วนใหญ่แนะนำ"ถือ"

จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำเพียงแค่"ถือ"เท่านั้น แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ของ SPRC จะมีพัฒนาการที่ดีมาก แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลัง SPRC ยังคงเหนื่อย เนื่องจากต้นทุนโรงกลั่นอยู่ในระดับสูง 

      

บล.   คำแนะนำ  ราคาเหมาะสม (บ.)
ยูโอบี เคย์เฮียน ขาย  6.20
ทิสโก้ ถือ  6.70
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ถือ  7.00
บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 7.80
ราคาเฉลี่ย 6.92 

 

ต้องยอมรับว่าการเข้าลงทุนหุ้น SPRC ช่วงนี้ อาจยังไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมนัก เนื่องจากราคาหุ้นแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบร่วม 3 เดือนแล้ว แม้แต่ช่วงรายงานงบไตรมาส 2/63 พลิกกลับมีกำไร ยังไม่สามารถผลักดันราคาหุ้นขึ้นไปได้ และเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยบวกข้างหน้า พบว่ายังไม่มีปัจจัยใดที่จะเข้ามาหนุนราคาหุ้น SPRC พุ่งได้เลย ดังนั้นนักลงทุนที่เข้าเก็งกำไรช่วงนี้อาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ
 

ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม


Let's block ads! (Why?)



"ไปได้ด้วยดี" - Google News
August 27, 2020 at 09:25AM
https://ift.tt/3gyW1pg

SPRC พุ่งแรงกว่ากลุ่ม..แต่ระยะสั้นยังไม่มีอะไรให้ลุ้น! - efinanceThai
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
https://ift.tt/2U2qx2u


Bagikan Berita Ini

0 Response to "SPRC พุ่งแรงกว่ากลุ่ม..แต่ระยะสั้นยังไม่มีอะไรให้ลุ้น! - efinanceThai"

Post a Comment

Powered by Blogger.