ถูกดร็อปเป็นสำรองรุ่นน้อง ตัดสินใจออกไปหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ใช้ความพยายามและความสัมพันธ์ของคู่ฝาแฝดจับมือก้าวข้ามจากนักเตะที่ถูกเมินสู่แข้งอนาคตไกล นี่คือเรื่องราวของ ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี
การท่าเรือ เอฟซี อุดมไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าดีล้นทีม ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือทีมลุ้นแชมป์โตโยต้า ไทยลีก 2020-21 พร้อมถูกยกเป็นทีมเต็งอย่างไม่ต้องสงสัย
ก่อนหน้านี้ สิงห์เจ้าท่า ของ มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ปิดดีลบิ๊กเนมอย่าง เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส , อดิศักดิ์ ไกรษร , ชาริล ชัปปุยส์ ฯลฯ มาร่วมทีม ไม่เพียงเท่านั้น ตลาดซื้อขายรอบสองหลังเบรกโควิด-19 ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อคว้าตัวสองฝาแฝดตระกูลอักษรศรีเข้ามาร่วมทัพชนิดเซอร์ไพรส์แฟนบอล
ทิตาวีร์(ปาแปง)-ทิตาธร อักษรศรี(โชแปง) ได้รับเสียงชื่นชมจากผลงานในศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 พวกเขาเพียบพร้อมด้วย สรีระ ฝีเท้า พละกำลัง กลายแนวรับน่าจับตามองของวงการลูกหนังไทย
แต่กว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านอุปสรรคล้มลุกคลุกคลานมากมาย โกล ประเทศไทย ขอพาคุณไปทำความรู้จักกับสองพี่น้องฝาแฝดอักษรศรี มากขึ้น…
เดิมที ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี ไม่ได้มีพรสวรรค์ด้านฟุตบอลที่เก่งกาจเกินวัย แต่ทั้งคู่เปี่ยมด้วยพรแสวงและความพยายามอยากเรียนรู้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ย้อนกลับไปในวัยเด็กทั้งคู่ตัดสินใจออกจากทีมฟุตบอลของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน เพราะต้องการพิสูจน์ตัวเองบนเส้นทางลูกหนัง
ปาแปง-โชแปง เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับอคาเดมีนอกรั้วโรงเรียน และเริ่มฝึกจากพื้นฐานพร้อมใช้เวลาช่วงนั้นเก็บประสบการณ์ด้วยการตระเวนแข่งฟุตบอลเดินสายระดับเยาวชน ทั้งคู่ทุ่มเทให้กับฟุตบอลด้วยความมุ่งมั่นว่าสักวันจะต้องกลายเป็นแข้งอาชีพ กระทั่งความพยายามเริ่มเห็นผลเมื่อแมวมองของ อาร์แบค สโมสรพันธมิตรของ บีอีซี เทโรฯ เห็นฝีเท้าของทั้งคู่จึงติดต่อเซ็นสัญญาเป็นเยาวชนฝึกหัดทีมมังกรไฟ
เส้นทางลูกหนังของพี่น้องอักษรศรี เริ่มนับหนึ่งในช่วงที่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายกับสโมสรบีซีซี เอฟซี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ บีอีซี เทโรฯ และได้รับโอกาสเรียกขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งคราว แต่ ณ เวลานั้น เทโรฯ อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีทำให้เบียดตำแหน่งค่อนข้างยาก
ด้วยความต้องการโอกาสลงเล่นทั้งคู่ตัดสินใจขอผู้ใหญ่ในสโมสรไปเล่นกับ โดม เอฟซี ทีมระดับไทยลีก 4 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี เมื่อฤดูกาล 2017 ก่อนจะโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมจนถูกต้นสังกัดเทโรฯ เรียกกลับมาร่วมทีมในเวลาต่อมา
การซ้อมในสนาม ปาแปง-โชแปง ใส่เกินร้อยเสมอ พวกเขาต้องการฝึกให้หนักมากกว่าคนอื่น เพราะรู้ดีว่า ตนเองต้องดีได้กว่านี้ ไม่เพียงแค่ในสนามเท่านั้น ทั้งคู่ยังชักชวนกันเข้าฟิตเนสเพื่ออัพกล้ามเนื้อจนรุปร่างบึกบึนอย่างที่เห็น
ทั้งคู่เปลี่ยนจากแข้งนอกสายตาที่เคยถูกมองข้ามสมัยฟุตบอลขาสั้นสู่ดาวรุ่งดวงใหม่ของ มังกรไฟ พร้อมกับค่อยๆได้รับโอกาสในทีมชาติไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งคู่ใฝ่ฝัน และหวังว่าวันหนึ่งจะได้ลงเล่นร่วมกันในสีเสื้อช้างศึก
ทว่าโชคชะตาเหมือนเล่นตลก โชแปง ผู้น้องมักได้รับบาดเจ็บหนักบ่อยครั้ง และต้องพลาดโอกาสทั้งในสโมสรและทีมชาติ ทุกครั้งที่น้องชายบาดเจ็บ ปาแปง ผู้พี่มักแสดงความสงสารน้องชายเสมอคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ และอยากเป็นคนที่เจ็บแทนน้องจากความสัมพันธ์ฝาแฝดที่ผูกพันธ์กันมากกว่าพี่น้องธรรมดาทั่วไป
ในปี 2019 เป็นปีที่ โชแปง ได้รับโอกาสติดทีมชาติไทยอีกครั้งกับรายการสำคัญอย่างศึกซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่มันกลับกลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ทำให้เขาจำไม่ลืม เพราะตลอดการลงเล่นในรายการนี้ โชแปง กลายเป็นนักเตะที่ถูกวิจารณ์หนักสุดของไทยจากฟอร์มการเล่นในสนาม ขณะที่ทัพช้างศึกต้องตกรอบแบบเหนือความคาดหมาย
เสียงวิจารณ์รุมล้อมเขาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของ โชแปง แต่แม้ฟอร์มการเล่นของเขาจะไม่เป็นที่ประทับใจของแฟนบอล แต่เขายังคงเป็นคนที่ทำให้พี่ชาย ปาแปง รู้สึกภูมิใจเสมอกับการรับใช้ชาติ ระหว่างทัวร์นาเมนต์นั้น โชแปง มักโทรศัพท์ข้ามประเทศไปหาพี่ชายเพื่อขอคำปรึกษาทำให้สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น
ฝันร้ายในนามทีมชาติไทยของแฝดผู้น้องถูกทำลายลง เมื่อเขาได้รับโอกาสติดทีมชุดสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือครั้งแรกที่ติดทีมชาติพร้อมกับ ปาแปง ผู้พี่ นั่นทำให้ โชแปง มีกำลังใจที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“ผมฝันไว้ว่าวันหนึ่งพวกเราจะมีโอกาสติดทีมชาติไทยพร้อมๆกัน เพราะที่ผ่านมาคลาดกันตลอด เดี๋ยวเจ็บบ้าง จนไม่ได้เล่นด้วยกันสักที แต่วันนี้สิ่งที่เราฝันไว้เป็นจริงแล้ว” ปาแปง กล่าวถึงการได้เล่นร่วมกับน้องชายในสีเสื้อช้างศึก
ตลอดทัวร์นาเมนต์ โชแปง ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายตัวจริง เขาเฉิดฉายตั้งแต่เกมแรกนัดถล่มบาเรนห์ 5-0 ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม และได้รับเสียงชื่นชอบจาก อากิระ นิชิโนะ กุนซือช้างศึก ซึ่งผิดไปกับคนละคนตอนลุยซีเกมส์ จนแฟนบอลให้การยอมรับและชื่นชมในสิ่งที่เขาแสดงออกมาในสนาม
ขณะที่ ปาแปง แจ้งเกิดในบทบาทเซนเตอร์ฮาล์ฟด้วยรูปร่างสูงใหญ่บวกกับสไตล์การเล่นที่ดุดัน ซึ่งทั้งคู่มีส่วนพาช้างศึกU23 สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้เป็นครั้งแรกในรายการนี้
หลังจบศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทั้งคู่ยังคงค้าแข้งกับ โปลิศ เทโร เอฟซี ก่อนที่ตลาดซื้อขายหลังเบรกโควิด-19 จะถูก การท่าเรือ เอฟซี คว้าตัวไปร่วมทีม และเป็นอีกครั้งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงจิตใจความเป็นนักสู้ที่พร้อมฝ่าฟันกันมาด้วยความสัมพันธ์ของคู่พี่น้องฝาแฝดอักษรศรี
“กว่าเราจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องใช้ความพยายามมาก พวกผมซ้อมหนักกว่าคนอื่นตลอด เพราะเราอยากดีกว่านี้ แต่มันก็อาจเป็นข้อดีที่เราสองคนไม่เคยมีใครคิดล้มเลิกระหว่างทาง ถ้ามีคนหนึ่งท้ออีกคนก็จะช่วยพยุง คอยให้กำลังใจกันตลอด มันก็เลยทำให้เราสองคนมาได้ไกลถึงตรงนี้”
“ตั้งแต่เล่นฟุตบอลมาเรายังไม่เคยแยกจากกันเลย ถ้าวันหนึ่งหากต้องเล่นคนละทีมก็คงสนัยสนุนและคอยให้กำลังใจกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเล่นด้วยกันไปตลอดครับ” ปาแปง-โชแปง เคยกล่าวก่อนจะย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ สิงห์เจ้าท่า
แพท สเตเดียม คือบ้านหลังใหม่ของทั้งคู่ หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปทั้งความท้าทายที่มากขึ้นกับการแย่งตำแหน่งในทีม , สภาพแวดล้อม , แฟนบอล , เพื่อนร่วมทีม , สตาฟฟ์โค้ช และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง
แต่สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนคือความพยายามเอาชนะอุปสรรคที่พร้อมใช้พรแสวงเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ ที่ไม่ว่าจะเจออุปสรรครูปแบบไหน พวกเขาทั้งคู่ก็พร้อมก้าวข้ามไปพร้อมกันเสมอ…
และนี่คือดาวรุ่งที่น่าจับตาประจำเดือนมิถุนายน ของเรา ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
June 30, 2020 at 07:25PM
https://ift.tt/2VvIck3
จับตาดาวรุ่งโตโยต้า ไทยลีก : ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี คู่แฝดพรแสวงแห่งสิงห์เจ้าท่า - Goal.com
"ไปได้ด้วยดี" - Google News
https://ift.tt/2U2qx2u
Bagikan Berita Ini
0 Response to "จับตาดาวรุ่งโตโยต้า ไทยลีก : ทิตาวีร์-ทิตาธร อักษรศรี คู่แฝดพรแสวงแห่งสิงห์เจ้าท่า - Goal.com"
Post a Comment